top of page

 

 

 

 

 

 

คนไทยรักในหลวงสุดหัวใจโลกทั้งใบต่างรับรู้

แต่เมื่อถามว่า "ทำไม"

หลายคนอาจบอกเหตุผลที่ตรงใจตัวเองไม่สำเร็จ

 

 ครองใจคน 

 

หนังสือเล่มเล็กที่รวบรวมเรื่องราวมากมาย

มาประมวลกันเป็นเหตุผลยิ่งใหญ่

เหตุผลที่หัวใจคนไทยมีในหลวงสถิตอยู่ทั่วกันทุกดวง

 

 

 

 

 

 

 ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ปรารภว่า

“...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลก่อนๆ ทรงครองแผ่นดิน

แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลนี้ ทรงครองหัวใจคน...”

 

 

 

 


 

พลิกอ่านเพียงไม่กี่หน้าก็จับหัวใจ จนคนไทยที่ได้อ่านต้องเสียน้ำตา

 

 

...ครั้งหนึ่ง มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เคยกราบบังคมทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า เคยทรงเหนื่อยหรือทรงท้อบ้างหรือไม่ ทรงมีพระราชกระแสตอบว่า “ความจริงมันน่าท้อถอยหรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านคือเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ”

 

....ปี 2525 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวนิตยสาร “เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก” ว่า “...เคยมีผู้กล่าวไว้ว่า ราชอาณาจักรนั้นเปรียบเสมือนปิรามิด มีพระมหากษัตริย์อยู่บนยอด และมีประชาชนอยู่ข้างล่าง แต่สำหรับประเทศไทยแล้วดูเหมือนทุกอย่างจะตรงกันข้าม นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องปวดคอและบริเวณไหล่อยู่เสมอ...”

 

...สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเล่าว่า “...มีอยู่ครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าอายุสิบแปดได้ตามเสด็จฯ... ประมาณ 9 โมงเช้า เสด็จออกทรงเยี่ยมราษฎรมาเรื่อยๆ ทีนี้ข้าพเจ้าก็รู้สึกว่า แหม.. นานเหลือเกิน ตอนนั้นยังไม่กางร่ม ตอนนั้นยังไม่ค่อยกลัวแดด ไม่ใส่หมวก ก็รู้สึกแดดร้อนเปรี้ยง หนังเท้านี่รู้สึกไหม้เชียว ...ก็เดินเข้าไปกระซิบกับท่านว่าพอหรือยัง ก็โดนกริ้ว บอกนี่เห็นไหมราษฎรเขาเดินมาเป็นวันๆ เพื่อมาดูเราแม้แต่นิดเดียว แต่นี่เรายืนอยู่ไม่เท่าไรล่ะ ตอนนี้ทนไม่ไหวเสียแล้ว...”

 

...บางวันถึงกับเสด็จฯ ไปเป็นการส่วนพระองค์โดยปราศจากกำลังอารักขา ทั้งที่บางหมู่บ้านตำรวจเพิ่งถูกคนร้ายแย่งปืนแล้วยิงตายก่อนเสด็จฯ ไปถึงเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทรงรักราษฎรถึงเพียงนี้ จึงไม่แปลกที่หญิงชราคนหนึ่งในหมู่บ้านหนึ่งของอำเภอรือเสาะจะ “...เข้ามาเกาะพระบาทของพระเจ้าอยู่หัวร้องไห้แล้วบอกว่า ไม่นึกเลยว่าพระเจ้าอยู่หัวเป็นคนไทยพุทธ จะมารักมุสลิมได้ถึงขนาดนี้...”

 

.....พระราชดำรัสประโยคเดียวที่ยังประทับอยู่ในหัวใจ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการ กปร. คือ "“มาอยู่กับฉันนั้น ฉันไม่มีอะไรจะให้ นอกจากความสุขที่จะมีร่วมกันในการทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น”

bottom of page